04.00 น. คณะผู้เดินทางพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยาสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่าประเทศ
สายการบิน THAI AIRWAYS (TG) ประตู 10 ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทคอยอำนวยความสะดวกเรื่องสัมภาระและเอกสารการเดินทางแก่ท่าน
07.00 น. เหินฟ้าสู่ ท่าอากาศยานอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี โดยสายการบิน THAI AIRWAYS (TG) เที่ยวบินที่ TG002
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที
08.05 น. เดินทางถึง สนามบินอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี หลังจากรอรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว vนำทุกท่านเดินทางสู่
จังหวัดหนองคาย โดยรถตู้ปรับอากาศต่อไปยัง ด่านพรมแดนหนองคาย ผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง ข้ามแม่น้ำโขงด้วยสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ชมวิวของแม่น้ำโขงที่หล่อเลี้ยงไทยและลาวมายาวนาน นำท่านเดินเข้าสู่ ด่านท่านาแล้ง นครหลวงเวียงจันทน์โดยรถมินิบัส สู่เมืองหลวงของประเทศลาว เมืองที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมที่หลากหลายที่เป็นเอกลักษณ์น่าสนใจ ธรรมชาติอันแสนสวยงาม สถาปัตยกรรมที่มีการผสมผสานระหว่าง ความเก่ากับความทันสมัยได้อย่างลงตัว จากนั้นนำท่านชม ประตูชัย ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของชัยชนะและอธิปไตยของลาว ชม อนุสาวรีย์ของพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช (ในอดีตเรียกว่า "อานุสาวะลี") เป็นอนุสรณ์สถานตั้งอยู่ท้ายสุดทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของถนนล้านช้าง ใจกลางนครเวียงจันทน์ ประเทศลาว ก่อสร้างในระหว่างปี พ.ศ. 2500 ถึงปี พ.ศ. 2511[1] เพื่อเป็นการสดุดีวีรชนผู้ร่วมรบเพื่อประกาศเอกราชจากประเทศฝรั่งเศส ปะตูไซถูกตกแต่งด้วยศิลปะแบบล้านช้าง นำสัตว์ในตำนานตามความเชื่อของศาสนาพุทธ เช่น กินรี และพญานาค เป็นต้น และเทพเจ้าในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู มาตกแต่ง บริเวณโดยรอบมีลานจัดการแสดงน้ำพุประกอบดนตรีและสวนปะตูชัย
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (1)
นำท่านนมัสการ พระธาตุหลวงเวียงจันทน์ องค์พระธาตุมีความสูง 45 เมตร สร้างเพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุส่วนหัวเหน่า 27 พระองค์ ซึ่งได้อัญเชิญมาจากเมืองราชคฤห์ ประเทศอินเดีย สมเด็จพระไชยเชษฐาธิราชทรงบูรณะขึ้นใหม่ภายหลังจากถูกพวกจีนฮ่อขุดหาสิ่งของมีค่ารื้อส่วนยอดพระธาตุลงมาถึงชั้นบัลลังก์ ตามตำนานกล่าวว่าพระธาตุหลวงมีประวัติการก่อสร้างนับพันปีเช่นเดียวกัน พระธาตุพนม ในประเทศไทย นับเป็นศูนย์รวมใจของประชาชนชาวลาวทั่วประเทศ และปรากฏความเกี่ยวพันกับประวัติศาสตร์ของดินแดนทางฝั่งขวาแม่น้ำโขงอย่างแยกไม่ออกต่อด้วยเก็บภาพที่ระลึกหน้าประตูชัย สร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2512 เป็นอนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึงประชาชนชาวลาวผู้เสียสละชีวิตในสงครามก่อนหน้าการปฏิวัติของพรรคอมมิวนิสต์ลักษณะสถาปัตยกรรมได้รับอิทธิพลของประตูชัยในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส แต่ลักษณะสถาปัตยกรรมก็ยังมีเอกลักษณ์ของลาวปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูปศิลปะลาว ภาพเรื่องราวมหากาพย์รามายณะ แบบปูนปั้นใต้ซุ้มประตูโค้งของประตูชัย ขึ้นบันไดไปชมทิวทัศน์ของนครเวียงจันทน์ แวะนมัสการ เจ้าแม่ศรีเมือง วัดศรี เมืองสร้างขึ้นในปีพ.ศ.2106 โดยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชได้ลงความเห็นให้สร้างวัดศรีเมือง ณ ที่แห่งนี้ ต่อมาถูกกองทัพสยามทำลายลงในปีพ.ศ.2371 และสร้างวัดศรีเมืองขึ้นมาใหม่ในปี พ.ศ.2458 ภายในวัดศรีเมืองมีพระพุทธรูปเก่าแก่ประดิษฐานอยู่มากมายนับเป็นศาลหลักเมืองสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองเวียงจันทน์
นำท่านเดินทางชม พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ หอพระแก้ว เวียงจันทน์ แต่เดิมหอพระแก้วนั้นเคยเป็นวัดหลวงประจำราชวงศ์ของลาว พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช มีพระราชประสงค์ให้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2108 เพื่อใช้เป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตที่ได้อัญเชิญมาจากนครเชียงใหม่ อาณาจักรล้านนา เมื่อต้องเสด็จกลับมาครองราชบัลลังก์ล้านช้างหลังจากที่พระราชบิดาคือพระเจ้าโพธิสารสิ้นพระชนม์ลงในการทำศึกสงครามกับสยาม เมื่อปี พ.ศ. 2322 นครเวียงจันทน์ถูกกองทัพสยามตีแตก กองทัพสยามได้อัญเชิญพระแก้วมรกต พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของนครเวียงจันทน์ไป พร้อมทั้งกวาดต้อนราชวงศ์ชาวลาวกลับไปยังกรุงเทพมหานครปัจจุบันเป็นของที่ถูกบูรณะขึ้นใหม่เกือบทั้งหมด ในปี พ.ศ. 2480-2483 สำหรับส่วนในของพิพิธภัณฑ์นั้น จัดแสดง พระแท่นบัลลังก์ปิดทองจารึกพระไตรปิฏก ภาษาขอมและกลองสำริดประจำราชวงศ์ลาว สำหรับประตูใหญ่ทั้งสองเป็นของเก่าที่หลงเหลือมาแต่เดิม บานประตูจำหลักเป็นรูปองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า บริเวณโดยรอบของหอพระแก้วเงียบสงบ ร่มเย็นมีไหขนาดกลางจากทุ่งไหหินในแขวงเชียงขวางวางตั้งอยู่ 1 ใบ อาณาบริเวณรอบ ๆ วัดสีสะเกดและหอพระแก้วเคยถูกใช้เป็นศูนย์กลางของหน่วยงานปกครองของฝรั่งเศสสมัยอาณานิคมมาก่อน
นำท่านเดินทางสู่ วัดสีเมือง หรือวัดศรีเมือง เวียงจัน เป็นพระอารามหลวงของนะคอนหลวงเวียงจัน ที่มีทั้งเกียรติและศักดิ์สิทธื์ ถือเป็น 1 ใน ศรี 5 ประกอบด้วย ศรีเมือง ศรีพูล ศรีฐาน สีบัวบาน ศรีหอม ในสมัยโบราณ การทำพิธีสำคัญของกษัตริย์โบราณ ไม่ว่าจะเป็นราชพิธีสำคัญใดๆเช่น การราชาภิเษกขึ้นครองราชย์ จะต้องนำน้ำพุทธมนต์จาก วัด 5 ศรี ทั้งหมดมาประกอบพิธีพุทธาภิเษก
วัดสีเมืองแห่งนี้นอกจากจะเป็นศาสนสถานในทางบวรพระพุทธศาสนาแล้ว ยังเป็นสถานที่ตั้งเสาหลักเมืองของนครหลวงเวียงจันทน์ ซึ่งจากตำนานที่ได้รับฟังจากชาวลาวในพื้นที่ทราบว่า การตั้งเสาหลักเมืองในอดีตจะต้องหาคนมาสังเวย คล้ายลักษณะปู่โสมเฝ้าทรัพย์ในอดีตของไทย ที่ต้องฝังคนทั้งเป็นหรือฆ่าคนแล้วฝังไว้ในสถานที่นั้น ๆ ทั้งนี้ด้วยความเชื่อที่ว่าเพื่อให้วิญญาณได้กลายร่างเป็นผู้ปกปักรักษาสถานที่ หรือสมบัติชิ้นนั้น ๆ ตลอดไป ซึ่งในกรณีของลาว จะเป็นการหาคนโดยสมัครใจหากไม่มีผู้ใด เจ้าอาวาสของวัดที่ถูกเลือกก็จะต้องถูกฝังอยู่ใต้หลุมของเสาหลักเมือง ซึ่งปรากฏว่าเสาหลักเมืองที่กำลังดำเนินการสร้างขึ้นที่บริเวณวัดสีเมืองแห่งนี้ กลับมีสตรีที่กำลังตั้งท้อง 3 เดือน ยอมกระโดดลงไปในหลุมเพื่อให้ตัวเองฝังอยู่ภายใต้เสาหลักเมืองนี้ โดยทราบภายหลังว่าสามีของสตรีคนดังกล่าวเป็นทหารที่เพิ่งเสียชีวิตจากภัยสงคราม ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นตำนานที่มาของเสาหลักเมืองที่วัดสีเมืองแห่งนี้
ได้เวลานำทุกท่านเข้าที่พักเก็บกระเป๋าพักผ่อนตามอัธยาศัย
จากนั้นนำทุกท่าน อิสระช้อปปิ้ง ที่และชมบรรยากาศถนนคนเดินเมืองหลวงพระบางยามราตรีได้ ที่ ถนนคนเดินริมโขงเวียงจันทน์ อิสระช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ร้านอาหาร (2)
พักที่โรงแรม Vientiane life center หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (3)
นำทุกท่านชม ศูนย์หัตถกรรมเครื่องเงิน ให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าของฝากของที่ระลึกมากมายซึ่งสินค้าราคาถูกโดยฝีมือคนลาว เช่น ผ้าไหม เครื่องเงิน ของที่ระลึกอื่นๆ
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (4)
จากนั้นนำทุกท่านเดินทางสู่ เมืองเฟือง โดยรถ(ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม.)เป็นอีกจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่มาแรง เมืองที่มีธรรมชาติงดงามบริสุทธิ์ เต็มไปด้วยมนต์สเน่ห์ทางด้านธรรมชาติแบบท้องถิ่น และ ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอยู่ตลอดทั้งนักท่องเที่ยวต่างประเทศ รวมถึงคนลาวด้วย เมืองเฟืองยังเป็นเมืองที่ผู้คนใช้วิถีชีวิตเกษตรกรรม ทำไร่ทำนา สวนยางพารา และการประมงพื้นบ้าน มีสายน้ำซองไหลผ่าน และมีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ที่เสมือนสายเลือดหล่อเลี้ยงชีวิตของชาวเมืองซึ่งมีทั้งกลุ่มชาติพันธุ์ ชาวม้ง และชาวลาวสูงส่วนธรรมชาติที่โดดเด่นก็เป็นเทือกเขารายล้อม โดยมีภูเขาใหญ่น้อยกระจัดกระจายเคียงไปกับพื้นที่เกษตรกรรมเป็นทัศนียภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจ การท่องเที่ยวเมืองเฟือง จึงเป็นจุดหมายที่เหมาะสำหรับผู้ชื่นชอบการท่องเที่ยวแนววิถีชีวิต ธรรมชาติ และการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
จากนั้นนำท่านชมวัดสินไชยาราม เป็นวัดที่มีคนเลี่ยมใสศรัทธามากในเมืองเฟือง เป็นวัดที่มีการสร้างวัดไปพร้อมกับการดูแลอนุรักษ์ป่าไม้ ฟื้นฟูสภาพป่าไม้ เป็นพุทธอุทยาน เป็นสถานที่เรียนรู้พุทธศาสนาและปฏิบัติธรรมควบคู่กับการอนุรักษ์ทรัพยากรป่า ด้านหลังวัดเป็นแนวเขาสวยงาม **การแต่งกาย ผู้หญิงต้องนุ่งผ้าซิ่นเท่านั้น (วัดมีให้เช่า ค่าเช่าแล้วแต่จะบริจาคท่านสามรถหยอดเงินใส่กล่องได้เลย) ถ้าเป็นผู้หญิงผมยาวต้องรวบผมด้วย ส่วนผู้ชายต้องสวมกางเกงขายาวเท่านั้น และถ้ามีผ้าเบี่ยง(ผ้าสไบ)ด้วยก็จะดีมาก
จากนั้นนำทุกท่านเดินทางสู่ แพริมน้ำลีก มาเมืองเฟืองต้องลองมานอนเรือนแพริมน้ำ สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติและได้มาเรียนรู้วิถีชีวิตของชุมชน เรือแพธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ น้ำใสไหลเย็น มีกิจกรรมตักบาตรพระสงฆ์ริมน้ำช่วงเช้าอีกด้วย
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ หน้าแพที่พัก เมนู!! หมูกระทะ (5)
อิสระให้ท่านพักผ่อนชมธรรมชาติตามอัธยาศัย
พักที่ แพไผ่เงินไผ่คำ , แพริเวอร์ไซด์ หรือเทียบเท่า
*** สิ่งสำคัญที่ควรทราบสำหรับการเข้าพักที่เมืองเฟือง ***
ห้องน้ำจะไม่ได้อยู่ในแพ (เนื่องจากเป็นข้อกำหนดของทางเมืองเฟืองที่จะไม่สามารถชำระสิ่งปฎิกูลลงในแม่น้ำได้
ในส่วนของห้องพักส่วนใหญ่จะเป็นเตียงเดี่ยว (พักห้องละ 2 ท่าน)กรณีถ้าไปเป็นคี่ โปรดสอบถามหรือจองห้องสำหรับพักเดี่ยว
เช้าตรู่ ตื่นเช้าไปร่วมทำบุญ-ตักบาตรริมน้ำ โดยพระสงฆ์จะพายเรือมาบิณฑบาตตามที่พัก ทุกท่านสามารถใส่บาตรตรงที่พักได้เลย ถือเป็นภาพยามเช้าที่มีชีวิตชีวาของเมืองเฟืองโดยสะท้อนถึงวิถีชีวิตของสังคมอันสงบสุขและความเลื่อมใสศรัทธาที่มีต่อพุทธศาสนาที่หยั่งรากลึกลงในวัฒนธรรมของชาวล้านช้าง (รวมค่าใส่บาตรแล้ว)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ หน้าแพที่พักพัก (6)
หลังจากนั้นนำทุกท่านเดินทางสู่ เมืองวังเวียง โดยรถ(ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม.)เมืองแห่งขุนเขา ดินแดนสุขาวดี มีธรรมชาติงดงามด้วยภูเขาหินปูนสูงชันตั้งเด่นตระหง่าน และสายน้ำเมืองตากอากาศของทหารอเมริกาในสมัยสงครามเวียดนามเมืองที่ได้ชื่อว่า “กุ้ยหลินเมืองลาว”
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (7)
จากนั้นนำท่านเดินทางไปยัง บลูลากูน (Blue Lagoon) หรือที่เรียกกันว่าสระน้ำจืดสีมรกต เป็นสระที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ น้ำในสระเป็นสีฟ้าหรือเขียวมรกตเพราะน้ำที่ผุดขึ้นมาจากบาดาลมีแหล่งกำเนิดมาจากภูเขาหินปูนที่โอบล้อมวังเวียงเอาไว้ ซึ่งในหินปูมีแคลเซียมคาร์บอเนตซึ่งทำให้น้ำตกตะกอน จึงเหลือเพียงความใสบนผิวน้ำเท่านั้น ให้ทุกท่านชม ถ้ำปูคำ ตั้งอยู่ในเมืองวังเวียง ด้านหน้าถ้ำเป็นบริเวณลำน้ำสำหรับให้นักท่องเที่ยวได้พักผ่อนหย่อนใจ มีร่มสำหรับนั่งพักผ่อน รวมถึงมีพื้นที่ลานกว้างสำหรับชาวต่างชาติมานอนอาบแดด
นำทุกท่านเข้าที่พักเก็บกระเป๋าพักผ่อนตามอัธยาศัย
จากนั้นนำทุกท่านได้พักผ่อน ล่องเรือชมวิวแม่น้ำซองกิจกรรมล่องเรือหางยาว ที่แม่น้ำซอง (Nam Song River) (รวมค่าล่องเรือหางยาวแล้ว) (กิจกรรมล่องเรือหางยาว 1 ลำนั่งได้2ท่าน ) แม่น้ำซองเป็นแม่น้ำสายหลักของเมืองวังเวียงหรือเรียกได้ว่าเป็นหัวใจของเมืองวังเวียง ตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขาหินปูนที่เรียกว่า “คาสต์” ลักษณะของหินปูนที่ถูกน้ำแซะละลายจนหลงเหลือเป็นภูเขาที่พื้นผิวเป็นหลุมเป็นบ่อ มีถ้ำและทางน้ำใต้ดิน มีความยาวประมาณ 36 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมทำกิจกรรมทางน้ำหลายอย่าง เช่น การนั่งเรือหางยาวล่องแม่น้ำซองชมวิวทิวทัศน์ธรรมชาติ,กิจกรรมพายเรือคายัค, หรือ(อิสระเล่นน้ำตามอัธยาศัย)
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ร้านอาหาร (8)
พักที่โรงแรม โรงแรมทวีสุข,โรงแรมซิลเวอร์ นากา หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (9)
จากนั้นนำท่านชม ถ้ำนางฟ้า (ANGEL CAVE) หลังจากข้าม "สะพานฟ้า" ถ้ำแห่งนี้ถือเป็นถ้ำขนาดใหญ่ที่สว่างไสวด้วยสปอตไลต์เจลซึ่งเต็มไปด้วย หินปูนขนาดใหญ่และมีหินย้อยตระการตาในรูปแบบต่างๆ ที่ไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็นในพระพุทธเจ้า ห้องครัว หรือสัตว์ และอื่นๆ เดินไปตามทางเดินในตรอกแคบๆ และเพลิดเพลินไปกับความน่าดึงดูดใจของหินงอกหินย้อยที่ซ่อนอยู่ในถ้ำแห่งนี้
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (10)
ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่สถานีรถไฟวังเวียง
14.28 น. ออกเดินทางสู่ เมืองเวียงจันทน์ โดยรถไฟด่วนลาว-จีน EMU ขบวนที่ C91 **รอบรถไฟและเวลาการเดินทางอาจมีการเปลี่ยนแปลง**
15.23 น. เดินทางถึง สถานีรถไฟเมืองเวียงจันทน์ เมืองที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมที่หลากหลายที่เป็นเอกลักษณ์น่าสนใจ ธรรมชาติอันแสนสวยงาม สถาปัตยกรรมที่มีการผสมผสานระหว่าง ความเก่ากับความทันสมัยได้อย่างลงตัว
เดินทางสู่ ด่านท่านาแล้ง นครหลวงเวียงจันทน์ แวะดิวตี้ฟรีให้ท่านซื้อสินค้าปลอดภาษี จากนั้นข้ามแม่น้ำโขงด้วยสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ชมวิวของแม่น้ำโขง ต่อไปยัง ด่านพรมแดนหนองคาย ผ่านพิธีตรวจคน
นำท่านเดินทางสู่ สนามบินอุดรธานี
19.35 น. เหินฟ้าสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน THAI AIRWAYS (TG) เที่ยวบินที่ TG009
20.50 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ
150/75 ถนน ไสวประชาราษฎร์ แขวง บึงยี่โถ เขต ธัญบุรี จังหวัด ปทุมธานี 12130